เมนู

ความหมายของ "อัคคะ" ศัพท์


อัคคะ

ศัพท์นี้ในคำว่า อชฺชตคฺเค นี้ ย่อมใช้ในอรรถว่า เบื้องต้น
(อาทิ) เบื้องปลาย (โกฏิ) ส่วน (โกฏฺฐาส)
และประเสริฐที่สุด
(เสฏฺฐ)
ก็อัคคะ ศัพท์ใช้ในอรรถว่า
- เบื้องต้น ( เช่น ) ในประโยคเป็นต้นว่า แน่ะนายประตูเพื่อนรัก
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข้าพเจ้าขอปิดประตูสำหรับพวกนิครนถ์.
- เบื้องปลาย ( เช่น ) ในประโยคเป็นต้นว่า บุคคลพึงลูบคลำ
ยอดอ้อย ยอดไผ่ ด้วยปลายนิ้วมือนั้นแล.
- ส่วน (เช่น) ในประโยคเป็นต้นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เราตถาคตอนุญาตให้แบ่งจากส่วนสิ่งของที่มีรสเปรี้ยว ที่มีรสหวาน หรือ
ส่วนสิ่งของที่มีรสขมตามส่วนวิหารหรือตามส่วนบริเวณ.
- ประเสริฐที่สุด (เช่น) ในประโยคเป็นต้นว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายจำนวนเท่าใดที่ไม่มีเท้าก็ตาม ฯลฯ พระตถาคต
บัณฑิตกล่าวว่าเป็นผู้ประเสริฐที่สุดของสัตว์เหล่านั้น.
- แต่ในที่นี้ อัคคะ ศัพท์นี้พึงเห็นว่า ลงในอรรถว่า เบื้องต้น.
เพราะฉะนั้น ในคำว่า อชฺชตคฺเค นี้ พึงเห็นความหมายอย่างนี้ว่า เริ่ม
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.
- บทว่า อชฺชตํ ได้แก่ อชฺชภาวํ (แปลว่า ความในวันนี้).
บาลีว่า อชฺชทคฺเค ดังนี้ก็มี. ท อักษร (เป็นอาคม) ทำหน้าที่เชื่อม
บท ( ระหว่าง อชฺช กับ อคฺเค ). แปลว่า เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้.
- บทว่า ปาณุเปตํ แปลว่า เข้าถึงด้วยชีวิต. อธิบายว่า ขอพระโคดม

ผู้เจริญจงทรงจำ คือจงทรงทราบข้าพระองค์ไว้ว่าเป็นอุบาสก คือ ไวยาจักร
(ผู้รับใช้พระ) ถึงสรณะด้วยไตรสรณคมน์แบบไม่มีศาสดาอื่น (นอก
จากพระโคดม) ตลอดเวลาที่ชีวิตของข้าพระองค์ยังเป็นไปอยู่ เพราะ
ว่าข้าพระองค์ ถ้าแม้นใคร ๆ จะพึงใช้มีดคมตัดศีรษะของข้าพเจ้าไซร้ ก็จะ
ไม่ขอกล่าวพระพุทธเจ้าว่า ไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระธรรมว่าไม่ใช่พระธรรม
(และ) พระสงฆ์ว่าไม่ใช่พระสงฆ์. พราหมณ์ครั้นถึงสรณะด้วยการ
มอบตนอย่างนี้แล้ว และปวารณาด้วยปัจจัย 4 ลุกขึ้นจากที่นั่งถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วเดินเวียนขวา ( รอบพระผู้มีพระภาคเจ้า )
3 รอบแล้วหลีกไปแล.
จบ อรรถกถาภยเภรวสูตร.
จบ สูตรที่ 4

5. อนังคณสูตร


[53] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ท่านพระ
สารีบุตร
เรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นรับคำ
ท่านพระสารีบุตรแล้ว.

บุคคล 4 จำพวก


[54] ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวว่า คุณครับ บุคคล 4 จำพวก
เหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก.
4 จำพวกนั้นเป็นไฉน ?
ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย บุคคลลางคนในโลกนี้ มีอังคณกิเลส
แต่ไม่รู้ตามเป็นจริงว่า เรามีอังคณกิเลสในภายใน 1 บุคคลลางคนในโลก
นี้มีอังคณกิเลส ก็รู้ตามเป็นจริงว่า เรามีอังคณกิเลสในภายใน 1 บุคคล
ลางคนในโลกนี้ ไม่มีอังคณกิเลส แต่ไม่รู้ตามเป็นจริงว่า เราไม่มีอังคณ-
กิเลสในภายใน 1 บุคคลลางคนในโลกนี้ ไม่มีอังคณกิเลส ก็รู้ตามเป็น
จริงว่า เราไม่มีอังคณกิเลสในภายใน 1.
ในบุคคล 4 จำพวกนั้น บุคคลใดมีอังคณกิเลส แต่ไม่รู้ตามเป็น
จริงว่า เรามีอังคณกิเลสในภายใน บุคคล 2 จำพวกที่มีอังคณกิเลส
เหมือนกันนี้ บุคคลนี้ บัณฑิตกล่าวว่า เป็นบุรุษเลวทราม. ในบุคคล
4 จำพวกนั้น บุคคลใดมีอังคณกิเลส รู้ตามเป็นจริงว่า เรามีอังคณ-